วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

บทที่ 4 การแปลงวิดีโอที่ตัดต่อเสร็จไปใช้งาน


บทที่ 4 การแปลงวิดีโอที่ตัดต่อเสร็จไปใช้งาน
            ขั้นตอนสุดท้ายของการทำงานวิดีโอ คือ การนำไฟล์วิดีโอที่ตัดต่อเสร็จแล้วไปใช้งาน ซึ่งในโปรแกรม Corel Video Studio Pro X7 ก็มีเครื่องมือช่วยในการแปลงไฟล์วิดีโอของเราให้เป็นไฟล์และสื่อบันทึกข้อมูลรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย ในปัจจุบัน ปรากฏว่าเราสามารถนำสื่อวีดิโอออกไปเผยแพร่ได้หลายทาง ตั้งแต่ ทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น MP4 บนโทรศัพท์ มือถือ หรือเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังสามารถเก็บไว้ได้หลายรูปแบบ ทั้งแผ่น วีซีดีแผ่นดีวีดีหรือ เทคโนโลยีใหม่อย่างแผ่น บลูเรย์(Blu-ray) เป็นต้น วิดีโอกับการนำไปใช้งานในรูปแบบต่างๆ การนำเสนอผลงานผ่านโปรแกรม Corel Video Studio Pro X7 นั้น สามารถรองรับการแปลงวีดิโอเป็นไฟล์ฟอร์แม็ตต่างๆหลายรูปแบบ เพื่อ ให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งานตามที่เราต้องการโดยทำงานผ่านคำสั่ง ในส่วนของแท็บ Share ดังนี้
Create Video File : สร้างไฟล์วิดีโอรูปแบบต่างๆ เก็บในคอมพิวเตอร์เช่น DV , DVD , HDV , WMV , MPEG4 เป็นต้น เพื่อนำไปใช้งาน ต่อไป เช่น เขียนเป็นแผ่น วีซีดีแผ่นดีวีดีหรือเก็บไว้เป็นไฟล์วิดีโอต้นฉบับสำหรับนำไปใช้ตัดต่อครั้งต่อไป
Create Sound File : สร้างไฟล์เสียงเพยีงอย่างเดียว ซึ่งสร้างได้ทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ MP4 , WAV และ WMACreate Disc : สร้างแผ่น ซีดี, SVCD , ดีวดีและเทคโนโลยีใหม่อย่างแผ่น Blu-ray ซึ่งสามารถสร้างไตเติลของแผ่นได้ด้วย
 Export to Mobile Device : สร้างวีดีโอเพื่อไปใช้ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ iPod หรือเครื่องเล่น MP4
Project Playback : แสดงผลงานกลับไปยังสื่ออื่นๆทันทีเช่น กล้องดิจิตอล วิดีโอ , โทรทัศน์ หรือแสดงภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ เต็มจอ DV Recording : บันทึกงานของเรากลับไปยังกล้องดิจิตอลวิดีโออีกครั้ง
HDV Recording : บันทึกงานของเรากลับไปยังกล้องดิจิตอลวิดีโอความ ละเอียดสูง (High Definition Video) อีกครั้ง
Upload to Web : สร้างไฟล์วิดีโอที่ใช้ในการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทั้งแบบ มาตรฐาน 4:3 และ แบบขนาด 16:9 แบบ HD

บทที่ 3 การตัดต่อคลิปเสียง


บทที่ 3 การตัดต่อคลิปเสียง
            สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่เราควรจะเรียนรู้ในการทา งานวีดีโอ นั่น ก็คือเรื่องของเสียง เช่น การแทรกเสียง บรรยายเพื่อสื่อความหมายให้กับงานวีดีโอที่ใช้ในงานนำเสนอ หรือการแทรกเสียงดนตรีประกอบงานวีดิโอที่ถ่ายทา งาน สำคัญต่างๆ ไว้ การนำไฟล์เสียงเข้ามาตัดต่อ ไฟล์เสียงต่างๆ (Audio Files) ที่เรามีเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เช่น ไฟล์เสียงที่อัดไว้ไฟล์เพลง ไฟล์ดนตรี บรรเลง สามารถนำเข้ามาใช้ร่วมกับงานวีดีโอได้โดยใน Corel Video Studio Pro X7 นี้มีความสามารถในการนำเสียงที่อยู่ ในคอมพิวเตอร์หลายๆฟอร์แม็ตมาใช้งานได้ 
เช่น รูปแบบไฟล์ นามสกลุ Audio Interchange Files *.aiff , *.aif Raw Files *.au CD Audio Files *.cda MP3 Audio Files *.mp3 MPEG-4 Audio Files *.mp4 , *.m4a MPEG Audio Files *.mpa , *.ac3 Microsoft WAV Files *.wav Windows Media Audio *.wma หรือ แม้แต่ไฟลจ์ากวีดีโอ เช่น MPEG-4 (mp4) หรือไฟล์นามสกุล .AVI ก็สามารถนำเข้ามาใช้เฉพาะแต่เสียงได้ ในการนำ ไฟล์เสียงที่มีอยู่มาใช้จะคล้ายกับการนำไฟล์วีดีโอ หรือ ไฟล์ภาพมาใช้จากหน้าต่าง โปรแกรมให้เราคลิก เมาส์ไปที่ปุ่ม Import media files แล้วเลือกไฟล์เสียงเข้ามาโดยมีวิธีการดังนี้

1. ให้เราสร้างหรือเลือกโฟลเดอร์ที่ใช้ในการจัดวางไฟล์เสียงที่จะนำเข้ามา
2. คลิกเมาส์ที่ปุ่ ม Import media files เพื่อเปิดหน้าต่าง Browse media files
3. ไปที่โฟลเดอร์ที่เราเก็บไฟล์เสียงหรือไฟล์เพลงเอาไว้แล้วคลิกเลือกไฟล์ที่ต้องการนำมาใช้งาน
4. คลิกเมาส์ที่ปุ่ ม Open ไฟล์คลิปเสียงที่ได้จะถูกนำเข้ามาไว้ใน Media Library ซึ่งสามารถน มาใช้ในงานวีดิโอของเราต่อไป จากนั้น ให้ลากคลิปเสียงจากหน้าต่าง Media Libraryไปวางไว้ที่ Music Track หรือ Voice Track ก็ได้ ซึ่งเป็นแทร็กสำหรับวางเสียงที่เรานำเข้ามา โดย คลิปเสียงบรรยาย จะนำมาวางที่ Voice Track  คลิปเสียงดนตรี จะนำมาวางที่ Music Track การลบคลิปเสียงออกจาก Timeline หากไม่ได้ใช้คลิปเสียงใด หรือนำเข้าคลิปเสียงผิดตัว เราก็สามารถเลือกลบคลิปเสียงที่เราลากมาใส่ไว้ใน Timeline ออกไปได้ดังนี้

1. คลิกเมาส์ขวาบนคลิปเสียงที่ต้องการลบ
2. เลือกคา สั่ง Delete นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกลบคลิปเสียงได้อย่างรวดเร็วโดยคลิกเลือกคลิปที่ต้องการลบ และกดปุ่ม บนคีย์บอร์ด เพื่อลบคลิปได้ทันที การตัดคลิปเสียงให้สั้นลง เราสามารถใช้ Timeline เพื่อตัดคลิปเสียงให้สั้นได้โดยให้เราเลือกคลิปเสียงที่ต้องการตัดจากนั้น เราสามารถ ตัดได้ทั้งส่วนหัวและส่วนท้ายของคลิป หรือเลือกตัดบริเวณใดๆ ของคลิปก็ได้เช่นกัน ในส่วนนี้เป็นการตัดคลิปเสียง ให้เลือกเฉพาะส่วนที่เราต้องการ เช่น เราต้องการเฉพาะแค่ช่วงต้นของคลิปเสียง เพียง 20 วินาทีแรกก็ทำการตัดคลิปวีดีโอได้ดังนี้

1. คลิกเมาส์ที่ปลายคลิปที่ต้องการจะตัดให้สั้นลง
 2. แดรกเมาส์เพื่อตัดคลิปมาจนถึงจุดที่เราต้องการ
3. คลิปที่ได้ จะเหลือความยาวตามที่เราเหลือไว้  คลิปเสียงถูกตัดให้สั้นลงการแบ่งช่วงคลิปเสียง นอกจากการตัดคลิปเสียงแล้ว เรายังสามารถใช้เครื่องมือใน Preview Window แบ่งคลิปออกเป็นตอนๆ เพื่อแทรก เทคนิคต่างๆเข้าไป หรืออยากจะตัดคลิป แต่ต้องการส่วนที่เหลือไว้ด้วยก็ทำ ได้ดัง ตัวอย่างนี้ เราจะทำการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. คลิกเมาส์เลือกคลิปเสียงที่ต้องการแบ่งช่วง
2. เลื่อน Scrubber มายังจุดที่เราต้องการแบ่งคลิปออกเป็นสองส่วน
3. เมื่อได้จุดตัดที่แน่ชัดแล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Split Clip โปรแกรมจะทำการตัดคลิปเดิมออกเป็นสอง ส่วนตามที่เราต้องการ

บทที่ 2 ตอน 2 การเพิ่มเทคนิคพิเศษให้วิดีโอด้วยวิดีโอฟิลเตอร์



บทที่ 2 ตอน 2 การเพิ่มเทคนิคพิเศษให้วิดีโอด้วยวิดีโอฟิลเตอร์
การเพิ่มเทคนิคพิเศษให้วิดีโอด้วยวิดีโอฟิลเตอร์ ความน่าสนใจของงานวีดิโออีกอย่างหนึ่ง ก็คือการใส่เทคนิคพิเศษให้กับชิ้นงาน ซึ่งเราเรียกเทคนิคภาพเหล่านี้ว่า ฟิลเตอร์ การทำงานของฟิลเตอร์ก็ไม่ยุ่ง ยากและมีให้เลือกใช้มากมายหลายรูปแบบตามความเหมาะสมของงาน การทำงานของวีดีโอฟิลเตอร์นั้น ก็จะมีลักษณะคล้ายกับวิดีโอที่มีความโปร่งใส ซึ่งเราจะเรียกว่า  ฟิลเตอร์ (Filter)” เมื่อนำมาวางไว้บนงานวีดิโอของเราก็จะทำให้เกิดภาพวิดีโอที่มีเทคนิคพิเศษขึ้น
 1.การใส่วิดีโอฟิลเตอร์ลงในงานวิดีโอ การใช้วีดีโอฟิลเตอร์นั้น สามารถใช้งานไดทั้งบน Storyboard และ Timeline และนอกจากนี้เรายังนำฟิลเตอร์มาใช้ได้มากกว่า 1 ฟิลเตอร์ อีกด้วย โดยวิดีโอฟิลเตอร์นั้น ไม่ได้มีผลกับตัวของงานวีดีโอของเราโดยตรง เรียกได้ว่า เราอยากจะเพิ่ม ฟิลเตอร์หรือลบฟิลเตอร์ออกกได้
1.1 การแทรกฟิลเตอร์ลงในงานวิดีโอ เราสามารถเลือกฟิลเตอร์รูปแบบต่างๆเพื่อ นำมาวางซ้อนทับคลิปวีดีโอในหน้าต่างStoryboard ได้ที่หน้าต่าง Option Panel ในหมวด Video Filter โดยมีวิธีการ ดังนี้
1. คลิกเมาส์เลือกคลิปวิดีโอที่จะใส่ฟิลเตอร์
2. ที่ Library Panel เลือกหัวข้อ Video Filter
3. เลือกหมวดหมู่ย่อ ย
 4. ลากฟิลเตอร์ที่ต้องการมาซ้อนบนคลิปวิดีโอ เมื่อเราเพิ่ม ฟิลเตอร์เข้าในงานวีดีโอแล้วจะแสดงให้เห็นในรายการ ซึ่งมีชื่อของฟิลเตอร์ที่เราแทรกเข้าไป แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Play เพื่อดูผลลัพธ์ที่ได้จากหน้าต่าง Preview Window
1.2 การเพิ่มฟิลเตอร์ในงานวิดีโอ หากเราต้องการเพิ่ม ฟิลเตอร์ลงไปในคลิปวีดีโอของเราอีกก็สามารถลากฟิลเตอร์มาวางเพมิ่ ลงไปได้ซึ่งการแสดงผลของฟิลเตอร์นั้น จะมีลักษณะของฟิลเตอร์ทั้งสองรวมกัน โดยจะเป็นการซ้อนทับกันอีก1 ชั้น แต่ก่อนอื่นเราต้องคลิกเมาส์ไปที่คำ สั่ง Replace Last Filter เพื่อเอาเครื่องหมายถูกออกก่อน ไม่เช่นนั้น ฟิลเตอร์ใหม่ที่ใส่ไปแทนที่ฟิลเตอร์เดิม
1.คลิกเมาส์เอาเครื่องหมายถูกที่คา สั่ง Replace Last Fillter ออก (เพื่อไม่ให้ฟิลเตอร์ใหม่แทนที่ ฟิลเตอร์เดิม)
2. เลือกฟิลเตอร์ที่จะเพิ่ม
3. ลากฟิลเตอร์ที่ต้องการมาวางบนคลิปวิดีโอ ที่บริเวณหน้าต่าง Option Panel จะแสดงชื่อของฟิลเตอร์ที่ใช้งานอยู่ในนคลิปวิดีโอ และก่อนนำฟิลเตอร์ตัวใหม่มาวาง ให้แน่ใจว่า คำสั่ง Replace Last Filterไม่ได้ถูกเลือกไว้เพราะไม่เช่นนั้น ฟิลเตอร์ตัวใหม่ที่ใส่เข้าไป จะแทนที่ตัวเดิมทันที
1.3 ลบฟิลเตอร์ที่ไม่ต้องการ ในกรณีที่เราใส่ฟิลเตอร์ให้กับคลิปวีดีโอแล้วเกิดไม่ถูกใจให้ลบออกไดจากหน้าต่าง Option Panel ดังต่อไปนี้
1. ที่หน้าต่าง Option Panel ให้เราคลิกเมาส์เลือกชื่อฟิลเตอร์ที่ต้องการลบ
2. จากนั้นให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Delete filter) สังเกตที่หน้าต่าง Option Panel รายชื่อของฟิลเตอร์ที่เรา เลือกจะถูกลบออกไป จากนั้นลองเล่นคลิปวีดิโอดูจากหน้าต่าง Preview Window เพื่อดูภาพผลลัพธ์ที่ได้
1.4 การปรับแต่งรายละเอียดของฟิลเตอร์ ทุกคร้ังที่ใส่ฟิลเตอร์ลงไปบนคลิปวีดีโอจะปรากฏสัญ ลักษณ์ของฟิลเตอร์นั้นๆ อยู่ในหน้าต่าง Option Panelและจะเห็นว่าที่สัญลักษณ์นั้นมีเครื่องหมาย ซึ่งบอกว่ายังมีรูปแบบย่อยของฟิลเตอร์นี้อีก นอกจากเราสามารถเลือกรูปแบบย่อยของฟิลเตอร์แล้ยังสามารถเข้าไปปรับแต่งรายละเอียดของฟิลเตอร์เองได้ อีกด้วยโดยเลือกคำสั่ง CustomizeFilter จะปรากฏหน้าต่าง CustomizeFilter ขึ้นมา ให้เราเลือกปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของฟิลเตอร์
1.5 กำหนดตำแหน่งฟิลเตอร์ กำหนดตำแหน่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เราอาจกำหนดให้มีการแสดงฟิลเตอร์ตั้งแต่ตอน ช่วงกลางของคลิป โดยดับเบิลคลิกไปยังตำแหน่งที่เราต้องการบน Key Frame จากนั้น จะปรากฏเครื่องหมาย แสดง ตำแหน่งขึ้น ซึงเป็นการกำหนดให้เริ่มแสดงฟิลเตอร์ ณ ตำแหน่งนั้น จากนั้นให้เราลองทำ การปรับแต่งฟิลเตอร์ที่อยู่ในส่วน Region ด้านล่าง หลังปรับแต่งเรียบร้อยแล้ว ให้ลองดู ผลงาน โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Play ในส่วนของหน้าต่างPreview Window

เทคนิคการซ้อนภาพวีดีโอ (Overlay - Blue Screen) Overlay
คือ เทคนิคการซ้อนภาพ เราอาจจะเคยเห็นมิวสิควิดีโอ หรือภาพยนตร์ที่ต้องการให้เห็นภาพเหตุการณ์ 2 ภาพ พร้อมกัน ก็จะนำเทคนิคการซ้อนภาพวีดีโอไปใช้นอกจากนั้น เทคนิค Overlay นี้ยังรวมไปถึงการสร้างชิ้นงานแบบ Blue Screen ที่เป็นการลบฉากหลังของวิดีโอออก และนำไปซ้อนบนวิดีโออีกตัวหนึ่งแทน สำหรับเทคนิค Overlay นี้เราจะใช้คลิป 2 คลิปมาวางซ้อนกัน โดยคลิปหลักจะอยู่ที่ Video Track ส่วนคลิปรอง จะอยู่ที่ Overlay Track ซึ่งจะมีรูปแบบการทำงานลักษณะนี้
 1.วิธีการซ้อนภาพ สำหรับการซ้อนภาพวีดิโอนั้น ก่อนอื่นเราต้องนา คลิปวีดีโอหลัก มาวางไว้ที่Video Track ใน Timeline ก่อน แล้ว นำคลิปวิดีโอรองมาวางไว้ที่ Overlay Track ซึ่งเป็นส่วนของการซ้อ้นภาพ จากนั้น ทำการปรับค่าการแสดงผลที่ Option Panel เพื่อกำหนดรูปแบบและลักษณะของการซ้อนภาพ โดยมีวิธีการดังนี้
 1. ลากคลิปวิดีโอหลักมาวางไว้ที่ Video Track ใน Timeline
2. ลากคลิปวิดีโอรองที่จะนำมาซ้อนบนคลิปวิดีโอหลักมาวางไว้ที่ Overlay Track
3. ขยายขนาดของคลิปวิดีโอรองที่นำมาซ้อน โดยทำการแดรกเมาส์ขยายขนาดของเฟรม
4. ปรับตำแหน่งวีดิโอที่ซ้อนทับอยู่
เทคนิคการใส่กราฟิกและแอนิเมชันให้วิดีโอ
 เทคนิคการแทรกภาพกราฟิกและภาพเคลื่อนไหวเป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการสร้างสรรค์งานวีดิโอให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
 1.การใส่กราฟิกให้งานวิดีโอ อีกวิธีหนึ่งในการสร้างความน่าสนใจให้กับงานวิดีโอ คือการใส่ลูกเล่นกราฟิกแบบต่างๆ เช่น ใส่พื้นหลังให้งานวิดีโอ แทรกวัตถุให้งานวีดีโอใส่เฟรมให้งานวีดีโอ หรือใส่ Flash Animation เพื่อเสริมลูกเล่นให้กับงานวีดีโอ เป็นต้น
 1.1 ใส่พื้นหลัง (Color) Color คือการใส่พื้นหลังให้กับงานวีดีโอซึ่งเราสามารถเลือกใช้สีได้ตามต้องการโดยใช้สีใน Color Picker ดังนี้
1. ที่หน้าต่าง Media Library ให้คลิกเมาส์เลือกไปที่โหมด Graphic จากนั้น เลือกในส่วนของ Color จะปรากฏสีพื้นหลังต่างๆ ขึ้นมาให้เลือกใช้งาน
2. ลากสีพื้นหลังที่ต้องการลงมาวางใน Timeline ตรงช่อง Video Track
3. หากต้องการเปลี่ยนเป็นสีอื่น ให้เข้าไปในหมวด Option Panel คลิกที่คา สั่ง Color Picker เลือก สีที่ต้องการเปลี่ยนได้เลย
1.2 ใส่วัตถุแทรกเข้าไปในวิดีโอ(Object) วัตถุ (Object) ที่โปรแกรมมีไว้ให้นั้นก็ คือภาพนิ่งที่เราใส่แทรกเข้าไปในงานวีดีโอเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น ใส่กรอบลายการ์ตูน ใส่กรอบคำพูด ใส่ลูกศร เป็นต้น ซึ่งมีวิธีการ ดังนี้
 1. เลือกไฟล์วิดีโอที่จะใช้มาวางบน Timeline
 2. ที่หน้าต่างของ Graphic ให้เราเลือกโหมด Object
 3. เลือกวัตถุที่ต้องการ มาใส่บน Timeline ในช่อง Overlay Track
 4. เลื่อนและย่อขยายวัตถุจากหน้าต่าง Preview ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
5. ประยุกต์โดยการใส่ตัวอักษรเพิ่มเข้าไปในวัตถุเพื่อเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น
1.3 ใส่เฟรมให้กับวิดีโอ (Frame) อีกสิ่งหนึ่งที่ทา ให้งานวีดีโอของเราน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ก็คือการใส่กรอบ หรือเฟรมให้กับวิดีโอที่เราสร้างขึ้นมา ซึ่งมีวิธีการ ดังนี้
1. เลือกไฟล์วิดีโอที่จะใช้มาวางบน Timeline ในช่อง Video Track
2. ที่หน้าต่างของ Graphic ให้เราเลือกโหมด Frame
3. เลือกเฟรมที่ต้องการ มาวางบน Timeline ในช่อง Overlay Track เพียงแค่นี้งานวีดีโอของเราก็ ดูมีสีสันขึ้นมาทันที
1.4 ใส่ Flash Animation Flash Animation คือเครื่องมือง่ายๆ ที่มีส่วนช่วยทำให้งานของเราออกมาดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ หลักการทำงานของ Flash Animationจะเหมือนกับสไลด์ที่นำมาซ้อนทับภาพงานของเราโดยจะเห็นเฉพาะบางส่วน เท่านั้น แต่ส่วนอื่นๆก็จะโปร่งแสงทั้งหมด Flash Animation มีความแตกต่างจากการใส่เฟรมหรือวัตถุตรงที่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วย เช่น ผีเสื้อบิน หรือ เฟรมที่มีการเคลื่อนไหว ไฟล์ Flash Animation เหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นจากโปรแกรม Flash โดยไฟล์จะมีนามสกุลเป็น .swf ซึ่งเราสามารถ สร้างขึ้นเองได้ไม่ยาก วิธีการเพิ่ม Flash Animation ให้กับงานวิดีโอ มีวิธีการ ดังนี้
1. ลากคลิปวีดีโอหรือภาพของเราที่ต้องการแทรกลูกเล่น Flash Animation เข้าไป มาวางไว้ที่ Video Track
2. ไปยัง Media Library ให้เราคลิกเลือกหมวด Flash Animation เพื่อเข้าไปเลือก Flash Animation ที่ต้องการใช้งาน
3. เลือกรูปแบบ Flash Animation ที่อยู่ใน Media Libraryแล้วลากมาวางไว้ที่ Overlay Trackของ Timeline




บทที่ 2 การเพิ่มเทคนิคพิเศษให้วิดีโอ


บทที่ 2 การเพิ่มเทคนิคพิเศษให้วิดีโอ
การใส่เทคนิคการเปลี่ยนฉาก ต่อไปเป็นการใส่เทคนิคการเปลี่ยนฉากระหว่างที่คลิปวีดีโอแรกถูกเล่นจบ และก่อนเข้าสู่คลิปวีดิโอที่สองโดยใช้ เครื่องมือทรานซิชั่นเข้ามาช่วยดังนี้ ให้เราเลือกกำหนดเทคนิคการเปลี่ยนฉากให้กับคลิปทั้งสองโดย
 1. คลิกเมาส์ที่ Media Library เลือกโหมด Transition
2. เลือกกลุ่มรูปแบบของทรานซิชันที่ต้องการ
3.จะปรากฏรูปแบบการเปลี่ยนฉากแบบต่างๆ ที่หน้าต่าง Media Library ให้เราคลิกเมาส์ลากทรานซิชัน ที่ต้องการมาวางไว้ตรงกลางระหว่างคลิปทั้งสองบนหน้าต่างStoryboard
การสร้างข้อความไตเติลให้งานวิดีโอ
ไตเติล (Title) คือข้อความที่ใส่ลงไปเพื่อการตั้งชื่อเรื่อง หรือคำบรรยายบางอย่างที่เราต้องการเพิ่มเข้าไปในงานวีดีโอโดยที่เราสามารถประยุกต์ การจัดวางให้อยู่ก่อนเนื้อหา ตลอดช่วงการแสดงงานวีดีโอ หรืออาจจัดไว้ต้อนช่วงท้ายของงานวีดีโอก็ได้ ในโปรแกรม Corel Video Studio Pro X7 ได้เตรียมไตเติลสำเร็จรูปไว้ให้เราเลือกใช้หลายรูปแบบด้วยกัน เพียงแค่เปลี่ยนข้อความในนั้นก็ใช้การได้แล้ว โดยมีวิธีการ ดังนี้
 1. ให้เราลากคลิปวิดีโอที่ต้องการสร้างข้อความไตเติลมาวางไว้ที่ Timeline ในช่อง Video Track
 2. จากนั้นไปที่แท็บ Title ในหน้าต่าง Media Library ให้เราเลือกหัวข้อไตเติลซึ่งจะปรากฏรูปแบบไตเติล สำเร็จรูปที่เราสามารถเลือกนำมาใช้ได้ทันที
3. เลือกรูปแบบไตเติลที่ต้องการจากนั้นลากไตเติลนั้นมาวางไว้บน Timeline ในส่วนของแทร็กไตเติล
4. ดับเบิลคลิกที่ข้อความในส่วนของไตเติล
 5. พิมพ์ข้อความใหม่เข้าไปแทนที่ก็เป็นอัน เรียบร้อย
1.การปรับแต่งลักษณะต่างๆของข้อความ นอกจากข้อความที่โปรแกรมได้ตั้งไว้แล้วอัตโนมัติเรายังสามารถตกแต่งข้อความเพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น การปรับขนาดข้อความ การเปลี่ยนสีข้อความ การสร้างการเคลื่อนไหวให้ข้อความ เป็นต้น การปรับแต่งค่าต่างๆเหล่านี้ สามารถทำได้จากหน้าต่าง Option Panel ซึ่งจะแบ่งการทา งานเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ Edit และ Attribute ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.1 เลือกรูปแบบและขนาดของข้อความ เราสามารถเลือกรูปแบบและปรับขนาดของข้อความใหม่ขนาดได้ตั้งแต่ 1-200โดยคลิกเมาส์ เลือกข้อความ และไปกำหนดค่าที่ส่วนของตัวเลือกดังนี้ Font face : ใช้ในการเลือกรูปแบบตัวอักษร
เรายังสามารถย่อขยายตัวอักษรได้โดยการแดรกเมาส์ที่ปุ่มสีเหลือง บริเวณขอบตัวอักษรใหม่ขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นได้ทันที
1.2 เปลี่ยนสีข้อความ นอกจากสีที่โปรแกรมกำหนดให้อัตโนมัติแล้วเรายังสามารถ เรายังสามารถเปลี่ยนสีข้อความได้ ดังนี้
1. คลิกเมาส์ไปที่ปุ่ม Color
2. คลิกเลือกสีที่ต้องการ หรือเลือกสีอื่นๆ โดยเลือกเมนู Corel Color Picker หรือ Window Color Picker
1.3 ปรับระยะห่างของข้อความ เราสามารถปรับแต่งระยะห่างระหว่างบรรทัดของข้อความได้โดยการคลิกเมาส์เลือกข้อความที่ เราต้องการปรับระยะห่างจากนั้นไปที่คำสั่ง (Line spacing) แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ ม เพื่อปรับระยะห่างของ ข้อความตามที่ต้องการ
 1.4 ปรับองศาความเอียงของข้อความ การปรับองศาความเอียงของข้อความทำได้ดังนี้
 · ปรับค่าตัวเลขใน Rotate by degree ในหน้าต่าง Option Panel โดยการคลิกเมาส์ที่ตัวเลข ซึ่งอยู่ใน Rotate by degree จากนั้น ปรับค่าโดยการเลื่อน หรือพิมพ์ตัวเลขขององศาที่ต้องการลงไป (จะเป็นบวกหรือลบก็ได้) แล้วกด
1.5 ปรับแต่งลักษณะ ตำแหน่ง และทิศทางของข้อความ เราสามารถปรับแต่งลักษณะ ตำแหน่งและทิศทางเบื้องต้นของข้อความได้โดยคลิกเมาส์เลือก ข้อความที่ต้องการและคลิกเมาส์เลือกปุ่มคำสั่งต่างๆ เพื่อปรับแต่งข้อความ
1.6 กำหนดค่าของเส้นขอบ เงา และความโปร่งใส การใส่เส้นขอบ เงาและความโปร่งใสของข้อความ เข้าไปกำหนดได้จากหน้าต่าง Border/Shadow/Transparency โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อเปิดหน้าต่างนั้นขึ้นมา
1.7กำหนดความหนาเส้นขอบและสีข้อความ เป็นการสร้างเส้นขอบและสีของข้อความ โดยกำหนดจากหน้าต่าง Border/Shadow/Transparency ดังนี้
 Boder width : กำหนดความหนาของเส้นขอบข้อความ
 Line color : กำหนดสีของเส้นขอบ สังเกตความเปลี่ยนแปลงที่หน้าต่าง Preview Window
 1.8กำหนดความเข้มของสีในข้อความ เราสามารถกำหนดระดับความเข้มของสีในข้อความได้จากหน้าต่าง Border/Shadow/Transparency ที่หัวข้อ Text Transparency
1.9กำหนดให้ข้อความโปร่งใสจนเหลือเพียงแต่ขอบ เราสามารถกำหนดให้ข้อความมีความโปร่งใสจนเหลือเพียงแต่ขอบของข้อความ และมองทะลุ ผ่านข้อความ ไปเห็นภาพที่อยู่ด้านหลังทันทีโดยการคลิกเมาส์ที่ช่อง
 1.10กำหนดให้ข้อความมีการตัดเส้นขอบ ในกรณีที่เรากำหนดให้เส้นขอบมีความหนามากๆ จะทำให้สีของเส้นขอบครอบคลุมมากินพื้นที่สีของตัวอักษรจนบางครั้งมองไม่เห็นว่าตัวอักษรเป็นสีอะไรเราสามารถแก้ไขได้โดยการกำหนดให้มีการตัดเส้นขอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว โดยการคลิกเมาส์ที่ช่อง
 1.11กำหนดความนุ่มนวลให้ข้อความ เป็นการปรับให้ข้อความดูนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น และดูไม่แข็งจนเกินไป โดยการ กำหนดค่าที่
 1.12 สร้างเงาให้ข้อความ การสร้างเงาให้ข้อความ จะช่วยทา ให้ข้อความดูมีมิติและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ คือ ทำให้เห็นข้อความได้ชัดเจน เมื่อทำออกมาเป็นวิดีโอจากหน้าต่าง Border/Shadow/Transparency เราสามารถสร้างเงาให้กับข้อความได้ดังนี้
No Shadow : ไม่แสดงแสงเงาให้กับข้อความ
 Drop : แสดงแสงเงาที่ตกกระทบด้านหลัง
Growing : แสดงเงาในลักษณะรัศมีของข้อความ Extrude : แสดงเงาในลักษณะของ 3 มิติ
คำสั่งอื่นๆในการปรับแต่งข้อความบนงานวิดีโอ นอกจากคำสั่งต่างๆ ในการปรับแต่งข้อความข้างต้นแล้วในหน้าต่าง Option Panel ยังมีคำสั่งอื่นๆ ที่ น่าสนใจเกี่ยวกับการปรับแต่งข้อความ ดังนี้
Multiple titles : ให้พิมพ์ข้อความได้หลายๆบรรทัด
 Single title : ให้พิมพ์ข้อความได้เพียงบรรทัดเดียว
 Show grid lines :แสดงเส้นกริดที่หน้าต่างPreview Window เส้นกริดนี้มีประโยชน์ในการอ้างอิงจุด ต่างๆบนจอภาพทำให้เราสามารถจัดรูปแบบข้อความมบนจอภาพได้ตรงตามความ ต้องการมากขึ้น
Grid line options : ใช้สำหรับตกแต่งเส้นกริดเช่น ให้มีความละเอียดของเส้นมากขึ้น เปลี่ยนสีเส้น และเลือกรูปแบบของเส้น
 Text backdrop : กำหนดให้มีฉากสีพื้นหลังรองรับข้อความ โดยคลิกเมาส์ที่ Customize text backdrop attributes : เพื่อเปิดหน้าต่างการทำงานขึ้นมา
Save Subtitle File : ให้สร้างข้อความที่เราพิมพ์เป็นไฟล์ข้อความที่สามารถเรียกขึ้นมาแสดงเป็น รูปแบบของตัวบรรยาย (Subtitle) ซึ่งจะถูกเก็บเป็นไฟล์นามสกุล .utf
Open Subtitle File : เรียกไฟล์ .utf ที่เป็นไฟล์ตัวบรรยายซึ่งเราได้ทำไว้ขึ้นมาใช้งาน
2.การสร้างการเคลื่อนไหวให้ข้อความ ในการสร้างไตเติลส่วนใหญ่เราจะไม่ได้ให้ข้อความอยู่นิ่งเฉยๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่กับทำให้ข้อความเคลื่อนไหวได้ด้วย เช่น เคลื่อนที่จากด้านบนลงมาด้านล่างจากทางซ้ายไปทางขวา เครื่องมือช่วยสร้างการ เคลื่อนไหวของไตเติลจะอยู่ในส่วนของแท็บ Attribute แสดงส่วนการทำงานของ Attribute เราสามารถกำหนดการเคลื่อนไหวให้กับข้อความที่สร้างขึ้น ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. ให้เราพิมพ์ข้อความและตกแต่งข้อความตามต้องการบนคลิปวีดีโอ
2. ที่หน้าต่าง Option Panel คลิกเมาส์ที่แท็บ Attribute เพื่อเข้าไปกำหนดการเคลื่อนไหวให้กับข้อความที่สร้างขึ้น
3. คลิกข้อความที่ต้องการสร้างการเคลื่อนไหวในหน้าต่างPreview Window
4. ในส่วนของ Attribute ให้คลิกเมาส์เลือก Animation และเลือก Apply เพื่อเลือกกำหนดการเคลื่อนไหว ให้กับข้อความ
5. ที่ช่อง Type ให้เราเลือกประเภทของการเคลื่อนที่ให้กับข้อความซึ่งจะมีรูปแบบย่อยภายใต้ประเภทนั้น ปรากฏขึ้นมาให้เราเลือก
6. เลือกรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ต้องการ
7. ทดสอบการแสดงผลของข้อความในหน้าต่าง Preview Window โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Play


บทที่ 1 ตอน 2 การตัดต่อ ปรับแต่งคลิปวิดีโอบน Storyboard และ Timeline


บทที่ 1 ตอน 2 การตัดต่อ ปรับแต่งคลิปวิดีโอบน Storyboard และ Timeline
สำหรับการใช้งาน Storyboard นั้นเพียงแค่ลากคลิปวีดิโอหรือภาพมาวางที่Storyboard ก็สามารถลำดับเรื่องราว ได้แล้วต่อไปจะมาดูการใช้งาน Storyboard ด้านอื่นกัน 1.การย้ายลำดับเรื่องราวใน Storyboard ในกรณีที่เราต้องการย้ายหรือสลับตำแหน่งคลิปต่างๆ ที่อยู่ใน Storyboard ใหม่ เพื่อ ให้ลำดับเรื่องราวเรื่องราวที่ เหมาะสมตามความต้องการมากขึ้นก็สามารถทำได้ง่ายๆดังต่อไปนี้
 1. คลิกเมาส์เลือกคลิปวิดีโอที่ต้องการย้าย

 2. ลากคลิปวิดีโอมาวางไว้ในลำดับที่ต้องการที่ต้องการ
2.การลบคลิปวิดีโอออกจาก Storyboard หากไม่ได้ใช้คลิปวิดีโอตัวใด หรือนา เข้าคลิปวิดีโอผิดตัว เราก็สามารถเลือกลบคลิปวิดีโอที่เราลากมาใส่ ไว้ใน Storyboard ออกไปได้ดังนี้
            1. คลิกเมาส์ขวาบนคลิปที่ต้องการลบ
 2. เลือกคำสั่ง Delete สังเกตว่าคลิปวีดีโอถูกลบออกไป โดยมีคลิปที่อยู่ถัดไปเข้ามาแทนที่ นอกจากนี้เรายังสามารมารถเลือกลบคลิปวิดีโอได้อย่างรวดเร็วโดยคลิกเลือกคลิปที่ต้องการลบ และกดปุ่ม บนคีย์บอร์ด เพื่อลบคลิปได้ทันที3.การตัดคลิปวิดีโอให้สั้นลง เราสามารถใช้ Timeline เพื่อ ตัดคลิปวิดีโอให้สั้นลงได้(ทำได้จากโหมด Storyboard เช่นกัน )โดยให้เรา เลือกคลิปวิดีโอที่ต้องการตัด จากนั้นเราสามารถตัดได้ทั้งส่วนหัวและส่วนท้ายของคลิป หรือเลือกตัดบริเวณใดๆ ของคลิป ก็ได้เช่นกัน ในส่วนนี้เป็นการตัดคลิปวิดีโอให้เลือกเฉพาะส่วนที่เราต้องการเช่น เราต้องการเฉพาะแค่ช่วงต้นของ คลิปวิดีโอเพียง 2 นาทีแรกก็ทำการตัดคลิปวิดีโอได้ดังนี้
1.คลิกเมาส์ที่ปลายคลิปที่ต้องการจะตัดให้สั้นลง
 2. แดรกเมาส์เพื่อตัดคลิปมาจนถึงจุดที่เราต้องการ
3. คลิปที่ได้ จะเหลือความยาวตามที่เราเหลือไว้4.การแบ่งช่วงคลิปวิดีโอ นอกจากการตัดคลิปวิดีโอแล้วเรายังสามารถใช้เครื่องมือใน Preview Window แบ่งคลิปออกเป็นตอนๆ เพื่อ แทรกเทคนิคการเปลี่ยนฉากเข้าไป หรืออยากจะตัดคลิป แต่ต้องการส่วนที่เหลือไว้ด้วยก็ทำ ได้ดังตัวอย่างนี้เราจะทำ การแบ่งคลิปวิดีโอออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
 1.คลิกเมาส์เลือกคลิปวิดีโอที่ต้องการแบ่งช่วง
2. เลื่อน (Scrubber) มายังจุดที่เราต้องการแบ่งคลิปออกเป็นสองส่วน 3. เมื่อได้จุดตัดที่แน่ชัดแล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Split Clip) โปรแกรมจะทำการตัดคลิปเดิม ออกเป็นสองส่วนตามที่เราต้องการ สังเกตคลิปวิดีโอถูกตัดแบ่งออกเป็นสองส่วน5.การปรับแต่งคลิปวิดีโอด้วยเครื่องมือใน Option Panel หน้าต่าง Option Panelคือส่วนที่ใช้ในการปรับแต่งค่าต่างๆ ของคลิปวิดีโอเช่น การเพิ่ม /ลดความเร็ว ของการแสดงวิดีโอการเบา/เร่งเสียงการแบ่งคลิป เป็นต้น
เราสามารถเปิดใช้งานได้ง่ายๆ หากเราอยู่ในมุมมองแบบ Storyboard ให้เราคลิกเมาส์เลือกคลิปวิดีโอจากนั้นคลิก เมนู (Options) บน Option Panelก็จะปรากฏเครื่องมือในการใช้งานปรับแต่งวิดีโอขึ้นมา หรือถ้าเราอยู่ ในมุมมองแบบ Timeline เราสามารถดับเบิลคลิกบนวิดีโอก็จะแสดงเครื่องมือการใช้งานขึ้นมาเช่นกัน ส่วนต่อไปเราจะ เริ่มทำความรู้จักเครื่องมือแต่ละตัวดังนี้
5.1 Volume : เครื่องมือปรับความดังของเสียงในคลิปวิดีโอ ในส่วนของ Volume เราสามารถเลือกเข้าไปปรับระดับความดังของเสียงใน คลิปวิดีโอได้โดยปกติจะกำหนดไว้ที่100 หรือคลิกเมาส์ที่ปุ่ม และใช้เมาส์ปรับเลื่อนความดังได้ นอกจากนั้นยังมีปุ่มคา สั่ง สำหรับปรับแต่งระดับความดังของเสียงอีกดังนี้
 Mute : เลือกเปิด/ปิดเสียงของคลิปวิดีโอที่เล่นอยู่
Fade In: ปรับระดับวามดังของเสียงในตอนเริ่มต้นคลิป โดยจะทำ ให้เสียงค่อยๆดงัข้ึนมา ซึ่งนิยมใช้ในการเริ่มต้น งาน เพราะจะทำ ให้เสียงน่าฟังขึ้น
 Fade Out : ปรับระดับความดังของเสียงในตอนท้ายของคลิป โดยจะทำ ให้เสียงจากที่ดังอยู่ ค่อยๆเบาลงจนไม่ได้ยิน
5.2 Rotate video : เครื่องมือปรับหมุนภาพวิดีโอ เครื่องมือ Rotate video ใช้สำหรับปรับหมุนการแสดงภาพวิดีโอดังนี้
Rotate video 90 degrees counterclockwise : ปรับความเอียงของภาพให้หมุนทางซ้าย 90 องศา Rotate video 90 degrees clockwise : ปรับความเอียงของภาพให้หมุนทางขวา 90 องศา Rotate video 90 degrees counterclockwise  คลิปต้นฉบับ  Rotate video 90 degrees clockwise
5.3 Color Correction : เครื่องมือตกแต่งสี และความสว่างให้คลิปวิดีโอ เครื่องมือ Color Correction ใช้สำหรับตกแต่งสีและความสว่างของคลิปวิดีโอ มีประโยชน์อย่า ง มากในกรณีที่ภาพวิดีโอของเราไม่ค่อยสว่างโดยเมื่อเราคลิกเมาส์เลือกเครื่องมือ Color Correctionแล้ว Option Panel ก็จะ เปลี่ยนเป็นเครื่องมือสำหรับปรับสีและแสง ให้เราเลือกปรับตามความต้องการ เลือกปรับระดับ สีและความสว่างตามต้องการโดยเลื่อน Slide bar ในส่วนของการปรับแต่งนั้นๆ ซึ่งมีส่วนที่เรา ปรับแต่งได้ดังนี้
 Hue : ปรับระดับของสีที่สะท้อนมาจากวัตถุ Saturation : ปรับความเข้มข้นและความจางของสี Brightness : ปรับความสว่างและความมืดของแสงภายในภาพวิดีโอ
 Contrast : ปรับความเข้มของแสง Gamma : ปรับความเข้มค่าแกมม่าของสี หากต้องการปรับค่าต่างๆให้เหมือนเดิม ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Reset)ก็จะทำ ให้สีของคลิปวิดีโอนั้นกลับ มา เหมือนเดิม และถึงแม้จะทำ การบันทึกงานไปแล้วก็ยังสามารถปรับค่าได้เหมือนเดิม
 *** หากต้องการปรับให้สีกลับมาเหมือนเดิมเฉพาะบางค่าเท่านั้น เช่น ต้องการปรับค่า Hue ให้เป็นเหมือนเดิม ให้นำเมาส์ ไปดับเบิลคลิกที่ Slide bar ของ Hue ค่าก็จะกลับ มาเป็นเหมือนเดิมก่อนปรับแต่ง5.4Speed/Time-lapse : เครื่องมือปรับความเร็วในการแสดงคลิปวิดีโอ ความเร็วในการแสดงคลิปวิดีโอเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ สำหรับงานตัดต่อวิดีโอเพราะ จะช่วยเพิ่มความรู้สึกให้ กับผู้ชมได้อย่างดีเช่น หากเราทำ ให้คลิปวิดีโอนั้น มีความเร็วเพิ่ม ขึ้น ก็จะให้ความรู้สึกสนุกสนาน ตลกขบขัน หรือหากทำ ให้ความเร็วของคลิปวิดีโอนั้น ช้าลงก็จะให้ความรู้สึกซึ้ง เศร้า โรแมนติกเป็นต้น
การใช้เครื่องมือ Speed/Time-lapse เพื่อ กำหนดการเพิ่ม -ลดความเร็วในการแสดงคลิปวิดีโอ ทำได้ดังนี้
 1. เลือกคลิปวิดีโอที่เราต้องการปรับความเร็วในการแสดงและคลิกเมาส์ที่คา สั่ง Speed/Time-lapse ในหน้าต่าง Option Panel (หรือคลิกขวาที่คลิปใน Storyboard และเลือก Speed/Time-lapse)
 2. จะปรากฏหน้าต่างSpeed/Time-lapseขึ้นมา ให้เราปรับความเร็วในการเล่นคลิปวิดีโอโดยมีส่วนที่เรา เลือกปรับได้ดังนี้ New clip duration : แสดงความยาวของคลิปหลังจากที่ได้ปรับความเร็วแล้ว (หรือพิมพ์ กำหนดความยาวคลิปวิดีโอให้มีค่าที่ต้องการก็ได้ ซึ่งความเร็วก็จะ เปลี่ยนตามไปด้วย)
Frame frequency : กำหนดอัตราเปลี่ยนเฟรมวิดีโอ
 Speed : กำหนดค่าเปอร์เซ็นต์ของความเร็วในการเล่นวิดีโอโดยค่าความเร็วปกติ ในการเล่นวิดีโอคือ100% และสามารถปรับไปได้ถึง 1000%
Slide bar : เลื่อนแถบ Slide bar เพื่อเลื่อนระดับความเร็วในการแสดงคลิปวิดีโอ (ซึ่ง จะทำ ให้เปอร์เซ็นต์ที่ ช่องSpeed เปลี่ยนตามไปด้วย) หลังปรับความเร็วในการเล่นคลิปวิดีโอแล้วเราสามารถทดลองดูการเล่นวิดีโอได้ก่อน โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Preview เพื่อ แสดงผลลัพธ์ออกมาที่หน้าต่างPreview Window
3. พอได้ผลลัพธ์ที่พอใจแล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม OK
5.5 Reverse Video : เครื่องมือสร้างคลิปวิดีโอถอยหลัง การแสดงคลิปวิดีโอถอยหลังเป็นวิธีหนึ่งสา หรับงานตัดต่อวิดีโอเพื่อ ช่วยเพิ่มความรู้สึก เหมือนกับการย้อนเวลาหรือการกระทำบางอย่างในงานวิดีโอบางตอน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้ คลิกเลือก จะทำให้คลิปวิดีโอเล่นถอยหลัง
5.6Split Audio : เครื่องมือตัดเสียงออกจากคลิปวิดีโอ เครื่องมือ Split Audio ใช้สำหรับแยกภาพและเสียงในคลิปวิดีโอออกจากกัน เช่น เราต้องการ เฉพาะวิดีโอเท่านั้น เพื่อ ใส่ดนตรีหรือเสียงบรรยายอื่นๆ เข้าไปแทนที่ภายหลังก็สามารถเลือกที่คา สั่งนี้ได้โดยหลังจาก คลิกเมาส์เลือก Split Audioแล้วโปรแกรมก็จะเข้าสู่หน้าต่าง Option Panel ของ Audio โดยอัตโนมัติสังเกต คลิปเสียงจะแยกออกมาจากคลิปวิดีโอ เราสามารถตัดเสียงออกจากคลิปวิดีโอเพื่อ ให้เหลือเฉพาะไฟล์วิดีโอเท่านั้น โดยเข้าไปลบคลิปเสียงจากหน้าต่าง Storyboard and Timelineดังนี้ ที่โหมด Timeline คลิกเมาส์เลือกคลิปเสียงที่ช่อง Voice Track กดปุ่ม เพื่อลบเสียงออกจากคลิปวิดีโอ
 *** เราสามารถสังเกตได้ว่า คลิปวิดีโอใดมีเสียง หรือเสียงถูกลบออกไปแล้วโดยการดูที่คลิปวิดีโอใน Storyboard ซึ่งคลิป ที่มีเสียงจะมีไอคอน ส่วนคลิปที่ไม่มีเสียงจะมีไอคอน ส่วนคลิปวิดีโอที่ไม่มีเสียงมาด้วยจะไม่มีสัญลักษณ์นี้ สังเกต จะได้คลิปวิดีโอที่ไม่มีเสียงประกอบ
6.การทดสอบดูงานวิดีโอที่ได้ หลังจากที่เลือกคลิปวิดีโอเข้ามาและปรับแต่งคลิปวิดีโอเรียบร้อยแล้วเมื่อเราต้องการชมผลงานทั้งหมดให้เลือก คลิกเมาส์ไปที่ Project เสียก่อน แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Play) โปรแกรมจะแสดงผลงานรวมทั้งหมดให้เราดูเข้าใจเรื่องการใช้งานClipและ Project ในการตัดต่อวิดีโอบน Corel Video Studio Pro X7 นั้น ควรทำความเข้าใจเรื่องการใช้งานคำสั่ง เกี่ยวกับคลิป (Clip) และคำสั่งเกี่ยวกับ Project (งานวิดีโอทั้งหมด) โดยมีความแตกต่างคือ
 · คำสั่ง เกี่ยวกับคลิป (Clip) : แสดงเฉพาะคลิปที่เราเลือก

 · คำสั่ง Project : แสดงคลิปทุกคลิปที่อยู่ใน Storyboard and Timeline สังเกตที่บริเวณหน้าต่าง Preview Window จะมีปุ่มสำหรับให้เราเลือกทำ งานกับคลิป (Clip) หรืองานวิดีโอ ทั้งหมด(Project) เพื่อ ดูงานวิดีโอทั้งหมด หรือเลือกดูเฉพาะคลิปที่เลือกอยู่ เมื่อเราทำ งานกับโปรแกรม Corel Video Studio Pro X7 เพื่อ ตัดต่อวิดีโอนั้น จะมีการทำงานกับคลิปวิดีโอหลายๆ ตัว ที่เราเลือกเข้ามาในโปรแกรม โดยเมื่อทำการตัดต่อ หรือเพิ่ม เอฟเฟ็กต์ ต่างๆ ให้กับ งานวิดีโอแล้วเราก็สามารถเลือก คลิกเมาส์ที่ Project เพื่อ ให้โปรแกรมเล่นงานวิดีโอทั้งหมด

บทที่ 1 การตัดต่อวิดีโอด้วย Corel Video Studio Prox7

บทที่ 1 การตัดต่อวิดีโอด้วย Corel VideoStudio Pro X7
การนำไฟล์จากแหล่งต่างๆเข้ามาตัดต่อ โปรแกรม Corel VideoStudio Pro X5 สามารถนำไฟล์ภาพ วิดีโอ หรือ ไฟล์เสียง ที่ถูกบันทึกไว้ในรูปแบบไฟล์ มีเดียจากฮาร์ดดิสก์มือถือกล้องดิจิตอลแผ่น วีซีดี  แผ่น ดีวีดี หรืออุปกรณ์บันทึกข้อมูลอื่นๆ มาใช้งานได้
1.การนำไฟล์จากภายนอกเข้ามาใช้งาน สามารถทำ ได้ง่ายๆ โดยการเลือกแท็บ Capture แล้วเลือกคำสั่ง Import from Digital Media ใน Option Panel ได้ทันที
2.การนำไฟล์วิดีโอที่บันทึกในแผ่นวีซีดีมาใช้งาน มีขั้น ตอนดังนี้
 1. ใส่แผ่น วีซีดีต้นฉบับ ลงในไดรฟ์
2.จากหน้าต่างหลักของส่วนการแคปเจอร์วีดีโอให้เราคลิกเมาส์ที่คำสั่ง Import from Digital Media เพื่อเลือกนำเข้าวีดีโอจากแผ่นวีซีดี
3.จากนั้น จะปรากฏหน้าต่างSelect Import Source Folders ขึ้นมา ให้เราเลือกไดรฟ์ที่ใส่แผ่นวีซีดี ต้น ฉบับอยู่ และคลิกเลือกโฟลเดอร์ที่เป็นที่อยู่ของไฟล์วีดีโอจากนั้นคลิกเมาส์ที่ปุ่มคำ สั่ง OK
4.จะแสดงหน้าต่าง Import from Digital Mediaขึ้น คลิกเมาส์ที่ปุ่มคำสั่ง Start เพื่อ เริ่มต้นการ ทำงาน
5.จากนั้น โปรแกรมจะแสดงไฟล์ทั้งหมดที่มีอยู่ในแผ่นออกมา เราสามารถเลือกแสดงภาพ วีดิโอจากไฟล์เหล่านี้ได้โดยคลิกเมาส์ P หน้า Chapter ที่ต้องการ แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม (Play)
6. เมื่อเลือก Chapter ไฟล์วิดีโอที่ต้องการได้แล้ว ให้เราทำการนำเข้า (Import) ไฟล์เข้ามาในโปรแกรม เพื่อ ที่จะใช้ในการตัดต่อโดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Start Import
7. เมื่อนา เข้าไฟล์วีดีโอจากแผ่น แล้ว จะปรากฏหน้าต่างให้ตั้งค่าสำ หรับการนา ไฟล์มาใช้งาน สามารถกำหนดพื้นที่จัดเก็บใน Library ว่า ต้องการจัดวางไวในโฟลเดอร์ใด ต้องการจัดวางลงใน Timeline โดยอัตโนมัติหรือเปล่า จากนั้นคลิกปุ่ม OK เพื่อเริ่มใช้งาน เมื่อกลับ เข้าไปในส่วน Edit ก็จะปรากฏไฟล์ที่ Media Library และที่ Preview Window หรือที่ Timeline (ตามที่เรา กำหนดค่า) พร้อมที่จะนำไปใช้ตัดต่อได้ทันที
3.การนำไฟล์ต่างๆเข้ามาใช้งานใน Media Library นอกจาการนำเข้าไฟล์วิดีโอจากอุปกรณ์ดิจิตอลเช่น จากกล้องวีดีโอกล้องดิจิตอล ซีดี ดีวีดี เรา สามารถนา ไฟล์จากแหล่งอื่น เช่น ไฟล์วีดิโอที่เก็บอยู่บนเครื่อง เข้ามาใน Media Library เพื่อรอที่จะใช้ในการตัดต่อโดย ประเภทของไฟล์มิเดียที่เราสามารถเลือกนา เข้ามาได้มีดังนี้ คลิปวิดีโอ: ไฟล์วีดีโอประเภทต่างๆที่เราเก็บไว้บนเครื่อง เพื่อนา มาใช้ในการตัดต่อ ต่อไป ภาพนิ่ง : ไฟล์ภาพชนิดต่างๆที่เรานำเข้ามา เพื่อใช้สร้างวิดีโอแบบสไลด์โชว์ หรือใช้เป็น พื้นหลังกับวีดีโอของเรา คลิปเสียง : ไฟล์เสียงที่เราอัดไว้หรือไฟล์เพลงที่มีบนเครื่อง เพื่อใช้เล่นประกอบงานวีดีโอ ที่เราตัดต่อจากหน้าต่างหลักการตัดต่อวีดีโอของ Corel VideoStudio Pro X7 มีวิธีการน าไฟล์มีเดียเข้ามาดังต่อไปนี้
 1. เมื่อเข้ามายังหน้า Media Libraryแล้วจะมีปุ่มแบ่งประเภทของไฟล์ที่แสดงไว้ให้เราเลือกใช้งาน ด้วยกัน คือ Videos : สำหรับนำเข้าไฟล์วิดีโอ Photos : สำหรับนำเข้าไฟล์ภาพ Audio Files : สำหรับนำเข้าไฟล์เสียง ให้เราคลิกเลือกประเภทไฟล์มีเดีย ที่เราต้องการทำงานด้วย

 2. สร้างโฟลเดอร์สำหรับจัดเก็บไฟล์ไว้ใช้งาน โดย 2.1 คลิกปุ่มคำสั่ง (Add a new folder) 2.2 พิมพ์ชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการ 1. คลิกเลือกประเภทไฟล์มีเดียที่ต้องการทำงาน

การพัฒนาสื่อวิดีทัศน์ เรื่อง การใช้โปรแกรมตัดต่อ Corel Video Studio ProX7

การใช้โปรแกรม Corel Video Studio ProX7




โปรแกรม Corel Video Studio ProX7 
เมื่อเปิดเข้ามาในโปรแกรม Corel Video Studio ProX5 จะเข้าสู่หน้า Edit โดยมีไฟล์ตัวอย่าง รูปแบบวิดีโอ ภาพนิ่งและไฟล์เสียง ให้เราเลือกใช้งาน
เราสามารถเคลื่อนย้ายพื้นที่การทำงานบน Workspace โดยคลิกเมาส์และลากนำไปจัดวางได้ตามต้องการ


หากต้องการปรับพื้นที่การทำงานกลับมาเป็นรูปแบบเริ่มต้นของโปรแกรม ก็สามารถทำได้ ดังนี้ Setting > Layout Settings > Switch to > Default

1. Edit Step : หน้าต่างหลักสำหรับตัดต่อ
เป็นส่วนที่ใช้ในการตัดต่อวิดีโอ ซึ่งเราสามารถตัดต่อ แก้ไข ใส่เทคนิคพิเศษ เพิ่มดนตรี เชื่อมต่อคลิปวิดีโอด้วยฉากต่างๆ ได้ตามที่เราต้องการ
ในส่วนของ Edit Step นั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปอีกมากพอสมควร ซึ่งเราสามารถแบ่งส่วนประกอบต่างๆในหน้าต่างนี้ได้อีก ดังนี้

1.1    Step Panel : ส่วนเลือกการทำงานกับไฟล์วิดีโอตามลำดับ
เป็นส่วนการทำงานหลักของโปรแกรม Corel Video Studio Pro X5 ซึ่งจะไล่ตามลำดับขั้นตอนการสร้างวิดีโอ ได้แก่ การจับภาพ (Capture) , การตัดต่อ (Edit) และการแปลงผลงานไปใช้ (Share)
แท็บ Capture  : นำเข้าวิดีโอจากอุปกรณ์อื่นๆ
สำหรับการเลือกนำเข้าวิดีโอ หรือแคปเจอร์วิดีโอจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น จากกล้องวิดีโอ การดึงไฟล์วิดีโอมาจากแผ่นภาพยนตร์ดีวีดี หรือ จากอุปกรณ์อื่นๆ เช่น โทรศัพท์ที่ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอได้ หรือกล้อง Webcam เป็นต้น เพื่อนำไฟล์เหล่านี้เข้ามาตัดต่อ หรือแทรกเทคนิคพิเศษต่อไป

แท็บ Edit  : ตัดต่อวิดีโอ
            เข้าสู่หน้าต่างหลักสำหรับการตัดต่อวิดีโอ ซึ่งจะประกอบด้วยหน้าต่าง Preview Window และเครื่องมือต่างๆสำหรับปรับแต่ง จัดลำดับการเล่นและตัดต่อวิดีโอ การใส่เอฟเฟ็กต์

แท็บ Share  : แปลงวิดีโอเพื่อนำไปใช้งาน
            แท็บ Share เป็นส่วนสำหรับการเลือกแปลงไฟล์วิดีโอที่เราตัดต่อเสร็จเรียบร้อย เป็นไฟล์วิดีโอมาตราฐานต่างๆ เช่น บันทึกลงแผ่นดีวีดี หรือแผ่นบลูเรย์ เพื่อใช้ในการนำเสนอต่อไป

1.2    Library Panel : แถบเครื่องมือสำหรับตัดต่อ
Library Panel เป็นส่วนที่ถูกแยกออกมาต่างหาก และจะอยู่ในหน้าต่าง Edit เพื่อใช้ในการตัดต่อ เช่น Transition หรือการใส่เอฟเฟ็กต์ ใส่ข้อความ เป็นต้น
แท็บ Media  : สำหรับเก็บไฟล์ภาพและวิดีโอเพื่อรอตัดต่อ
      ในส่วนของ Media นั้น เป็นเสมือนคลังในการเก็บไฟล์วิดีโอ รูปภาพ ที่จะนำมาใช้เพื่อการตัดต่อ
แท็บ Instant Project  : รูปแบบงานวิดีโอสำเร็จรูป
      แท็บ Instant Project  จะบรรจุรูปแบบงานวิดีโอสำเร็จรูป (Template) ไว้ให้เราเลือก โดยการแทนที่ภาพถ่ายหรือวิดีโอลงไป ซึ่งมีรูปแบบต่างๆที่น่าสนใจให้ใช้งานจำนวนมาก

แท็บ Transition  : รูปแบบในการเปลี่ยนฉาก
แท็บ Transition จะบรรจุรูปแบบในการเปลี่ยนฉากทั้งหมดไว้ให้เราเลือกใช้งาน โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆถึง 16 หมวด
แท็บ Title  : รูปแบบข้อความ
แท็บ Title จะบรรจุรูปแบบข้อความต่างๆ สำหรับสร้างไตเติลอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีให้เลือกใช้หลายรูปแบบ รวมถึงสามารถปรับแต่งภาพแก้ไขเพิ่มเติมลงได้

แท็บ Graphic : สำหรับสร้างพื้นหลังสี ใส่เฟรม วัตถุ และภาพเคลื่อนไหว
แท็บ Graphic จะประกอบด้วย
-       หมวด Color คือพื้นหลังสีต่างๆ
-        หมวด Object ประกอบด้วยวัตถุ (เคลื่อนไหวไม่ได้) สำหรับใส่เข้าไปเพิ่มลูกเล่นในงาน
-        หมวด Frame ประกอบด้วยกรอบหลากหลายแบบ ที่สามารถซ้อนเข้าไปในงานวิดีโอได้ทันที
-       หมวด Flash Animation ประกอบด้วยวัตถุ กรอบ ลูกเล่นต่างๆ ที่สามารถเคลื่อนไหวได้ สำหรับใส่ซ้อนเข้าไปในงาน

หมวด Color : เก็บสีต่างๆเพื่อใช้เป็นพื้นหลัง
หมวด Object : เก็บรูปภาพวัตถุต่างๆสามารถนำไปซ้อนในงานได้เลย
หมวด Object : เก็บรูปแบบกรอบต่างๆที่น่าสนใจ สำหรับซ้อนในงาน
หมวด Flash Animation : เก็บรูปแอนิเมชั่น รวมทั้งกรอบที่เคลื่อนไหวได้
แท็บ Filter  : สำหรับใส่เอฟเฟ็กต์ให้กับงาน
แท็บ Filter จะบรรจุเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เพื่อสร้างภาพให้มีความแปลกตาและน่าสนใจ ซึ่งมีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ อีกทั้งยังสามารถนำเอฟเฟ็กต์ต่างๆ มาผสมกันได้อีกด้วย

1.3    Preview Window : หน้าต่างแสดงผล
Preview Window เป็นเหมือนจอมอนิเตอร์สำหรับแสดงผลงานทั้งหมดที่เราเลือกนำมาตัดต่อ ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ เสียง ดนตรี หรือตัวอักษร เพียงแค่เราเลือกไฟล์ที่อยู่ใน Media Library หน้าต่าง Preview Window ก็จะแสดงผลทันที เราสามารถเลือกเล่นหรือหยุดไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์เสียงนั้นได้ โดยใช้ปุ่มควบคุมซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเครื่องเล่นวิดีโอที่อยู่บนหน้าต่าง Preview Window นี้
1.4    Option Panel : หน้าต่างรวบรวมคำสั่งต่างๆ
Option Panel เป็นหน้าต่างที่ใช้รวบรวมคำสั่งที่ใช้จัดการเกี่ยวกับงานวิดีโอของเรา ซึ่งจะเปลี่ยนหน้าตาไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังทำงานอยู่กับคลิปของงานประเภทใด เช่น ถ้าเรากำลังทำงานเกี่ยวกับคลิปวิดีโอ Option Panel ก็จะเป็นคำสั่งเกี่ยวกับวิดีโอ เป็นต้น ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า Option Panel จะเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะต่างๆ
1.5    Storyboard and Timeline : หน้าต่างตัดต่อวิดีโอ
หน้าต่าง Storyboard and Timeline คือ หน้าต่างที่ใช้ในการตัดต่อและเรียบเรียงวิดีโอ โดยการนำคลิปต่างๆ มาวางเรียงต่อกันตามลำดับ และตัดต่อส่วนที่ไม่ต้องการ รวมทั้งการใส่ดนตรี เสียงบรรยาย และเทคนิคภาพต่างๆ โดยเราสามารถแบ่งได้เป็น 2 หมวด ได้แก่ หมวดของ Storyboard และหมวดของ Timeline

Storyboard: เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้งาน เพราะมีความง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ความสามารถจำกัด ซึ่งผู้เริ่มต้นควรใช้สลับกับหมวด Timeline
Timeline: เหมาะกับงานตัดต่อที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะจะสามารถใส่ลูกเล่นต่างๆได้มาก ไม่ว่าจะเป็นเทคนนิคภาพ การแทรกคลิปเสียง เป็นต้น
และเราสามารถกำหนดให้แสดง / ไม่แสดงแทร็กแต่ละตัวได้ โดยคลิกที่ส่วนหน้าของแทร็ก โดยกำหนดให้ เป็นการแสดงแทร็ก และ เป็นการไม่แสดงแทร็ก